23/08/2023
ปัจจุบันโลกของสกุลเงินดิจิทัลได้รับความนิยมมากขึ้นอันเป็นผลมาจากการยอมรับจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ก่อให้เกิดการแข่งขันเพื่อเป็นผู้นำในสกุลเงินดิจิทัลของโลก ส่งผลให้สกุลเงินดิจิทัลมีความเสถียรและไปได้อีกไกล
ข้อเท็จจริง 9 ข้อ ที่คุณควรรู้เกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซี
#1 คุณห้ามทำกระเป๋าเงินดิจิทัลหาย
เมื่อคุณทำธุรกรรมโดยใช้สกุลเงินดิจิทัล คุณจะต้องมีกระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งจะมีการกำหนดรหัสสาธารณะและรหัสส่วนตัว โดยคุณจะได้รับรหัสส่วนตัวในการเข้าใช้หลังจากคุณเปิดบัญชี และหากคุณทำรหัสส่วนตัวหาย โอกาสในการกู้คืนก็จะน้อยมาก ดังนั้นการที่เงินดิจิทัลของคุณจะหายไปส่วนใหญ่แล้วจะเกิดจากความผิดของตัวคุณเอง (เจ้าของบัญชี) เนื่องจากเทคโนโลยีบล็อกเชนแม้จะช่วยลดโอกาสในการสูญเสียเงินดิจิทัลจากการโจรกรรมได้ แต่คุณต้องรับผิดชอบต่อการสูญเสียเงินดิจิทัลของคุณแต่เพียงผู้เดียว
ในขณะที่หากบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตของคุณสูญหาย คุณยังคงสามารถตรวจสอบและออกบัตรใบใหม่ได้ที่ธนาคารเพียงแสดงหลักฐานระบุตัวตน แต่หากเป็นธุรกรรมผ่านสกุลเงินดิจิทัลซึ่งมีความปลอดภัยสูง คุณจะไม่สามารถเข้าถึงบัญชีของคุณได้ ดังนั้นคุณจึงต้องให้ความสำคัญกับการเก็บรักษารหัสส่วนตัวเป็นอย่างดี
#2 ระวัง ‘Cryptojacking’
ถึงแม้ว่าการทำธุรกรรมกับสกุลเงินดิจิทัลจะมีความปลอดภัยเนื่องจากความปลอดภัยของกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ถูกออกแบบมาแต่ก็อาจจะมีความเสี่ยงที่จะถูกโจรกรรม หรือที่เรียกว่า ‘Cryptojacking’ ได้ ซึ่ง Cryptojacking นั้นเป็นการโจมตีที่ผ่านการเรียกใช้ซอฟต์แวร์การขุดคริปโทเคอร์เรนซีบนคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจะเข้าถึงกระเป๋าเงินดิจิทัลของคุณ และขโมยสกุลเงินดิจิทัลเพื่อขายทำกำไร ข้อสังเกตง่ายๆ ที่เข้าข่ายสงสัยว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์ของคุณอาจจะติดไวรัส ก็คือโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ของคุณทำงานช้าลง และแบตเตอรี่ของคุณจะหมดเร็วขึ้นนั่นเอง
#3 ไม่มีใครรู้จักผู้สร้างบิทคอยน์ที่แท้จริง
ไม่มีใครรู้ว่าบุคคลหรือองค์กรที่สร้างบิทคอยน์แท้ที่จริงแล้วคือใคร ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจที่สุดในโลกของสกุลเงินดิจิทัล ถึงแม้ว่าหลายคนอ้างว่าเป็นผู้ริเริ่ม แต่ก็ไม่มีข้อมูลใดที่เชื่อถือได้จริง ต่อมาได้มีข้อมูลแสดงว่าผู้ที่สร้างบิทคอยน์ คือบุคคลที่ใช้ชื่อว่า ‘Satoshi Nakamoto’ ซึ่งอาจเป็นเพียงชื่อย่อที่มาจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกอย่าง Samsung, Toshiba, Nakamichi และ Motorola ก็เป็นได้
#4 มูลค่าของคริปโทเคอร์เรนซีมีความผันผวนอย่างมาก
ปัจจัยภายนอกมักจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลเช่นเดียวกับในตลาดหุ้นแบบดั้งเดิม ทำให้สกุลเงินดิจิทัลมีความผันผวนอย่างมาก นักลงทุนจึงต้องอาศัยสัญชาตญาณในการซื้อขาย รวมถึงการเลือกช่วงเวลาซื้อขาย โดยมูลค่าของเหรียญที่ผันผวนขึ้นลงสามารถเอื้อประโยชน์ให้กับคุณได้เช่นกัน หากคุณตัดสินใจซื้อขายในเวลาที่เหมาะสม
#5 ประเทศจีนเป็นแหล่งขุดคริปโทเคอร์เรนซีที่ใหญ่ที่สุดในโลก
การขุดคริปโทเคอร์เรนซี เป็นกระบวนการของการตรวจสอบการทำธุรกรรมและการเพิ่มไปยังบัญชีแยกประเภทสาธารณะที่รู้จักกันในชื่อ Blockchain โดยใช้การประมวลผลคอมพิวเตอร์เพื่อแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ซึ่งผู้ขุดจะได้รับคริปโทเคอร์เรนซีเป็นรางวัลตอบแทน ซึ่งในปัจจุบันประเทศจีนเป็นประเทศที่มีการขุดคริปโทเคอร์เรนซีมากที่สุดในโลก สูงถึง 75% ของจำนวนการขุดทั้งหมด
#6 ปัจจุบันมีมากกว่า 7,000 สกุลเงินดิจิทัล ในโลก
สกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโทเคอเรนซี กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และโทเคนจำนวนมากมีความผันผวนในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่ปัจจุบัน มีคริปโทเคอร์เรนซีมากกว่า 7,000 ตัว ในตลาดที่สามารถทำการซื้อขายและขุดได้ ซึ่งรู้จักกันในนาม Altcoins ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิตอลประเภทอื่นที่นอกเหนือจาก Bitcoin
จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันมีจำนวนคริปโทเคอร์เรนซีเกิดขึ้นมากมายในตลาด นักพัฒนาจึงต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ในการตั้งชื่อ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมจึงมีสินทรัพย์ดิจิทัลชื่อแปลกๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา เช่น Cabbage, Dogecoin, Wrapped Bitcoin, Saitama และ The Sandbox ฯลฯ อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน มี Altcoins ที่หยุดการเคลื่อนไหวแล้วเกือบ 2,000 เหรียญ ซึ่งหมายความว่าโครงการต่างๆ เหล่านั้นล้มเหลวเพราะถูกนักพัฒนาละทิ้งหรือถูกเปิดเผยว่าเป็นโครงการหลอกลวงนั่นเอง
#7 ในทางปฏิบัติไม่สามารถห้ามการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลได้
หลายประเทศทั่วโลกได้มีการหารือเกี่ยวกับการห้ามลงทุนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี แต่พวกเขาก็ไม่สามารถห้ามได้ในทางปฏิบัติ เนื่องจากทุกคนสามารถสมัคร และเปิดใช้งานกระเป๋าเงินดิจิทัลได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด กล่าวคือ แม้ว่ารัฐบาลของประเทศต่างๆ จะสามารถกำหนดกฎระเบียบการลงทุนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่ได้ แต่จะไม่สามารถห้ามหรือขัดขวางการซื้อขายได้นั่นเอง
#8 คริปโทเคอร์เรนซีมีประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตมีการใช้งานอย่างกว้างขวางแม้ในประเทศโลกที่สามที่การเปิดบัญชีธนาคารอาจทำได้ยาก แต่คริปโทเคอร์เรนซีหรือสกุลเงินดิจิทัลสามารถช่วยให้การซื้อขายผ่านอีคอมเมิร์ซเข้าถึงบุคคลได้อย่างกว้างขวางและหลากหลายมากขึ้นหากเลือกใช้สกุลเงินดิจิทัลเป็นตัวเลือกในการชำระเงิน ซึ่งปัจจุบันมีการใช้จ่ายผ่านระบบอีคอมเมิร์ซมากมาย แต่สกุลเงินดิจิทัลจะช่วยเร่งกระแสธุรกิจนี้ให้เร็วเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลมีการกระจายอำนาจ จึงไม่จำเป็นต้องมีคนกลางในการทำธุรกรรม ทำให้การค้าขายในโลกดิจิทัลมีอิสระและความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
#9 ในโลกของคริปโทเคอรร์เรนซี ธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศไม่จำเป็นต้องอาศัยสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน
เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลไม่มีพรมแดน การทำธุรกรรมจึงไม่จำเป็นต้องอาศัยสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินตราต่างประเทศ